29.juneCloudNose

                                                                                          ฉบับที่ 29 เดือนมิถุนายน 2557

                                                          
Cloud Nose 2.0
                             จมูกอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการตรวจวัดกลิ่นผ่านเครือข่ายแบบไร้สาย



จมูกอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครื่องมือในการตรวจวัดและวิเคราะห์กลิ่นในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งทำงานโดยใช้เซ็นเซอร์วัดก๊าซชนิดต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ทดแทนจมูกมนุษย์ Cloud nose ถูกพัฒนาขึ้นครั้งแรกในปี 2555 เป็นการสร้างเครื่องต้นแบบสำหรับรายงานผลและการวิเคราะห์ผลของการตรวจวัดกลิ่นด้วยจมูกอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบออนไลน์โดยในเวอร์ชันแรกเป็นการใช้คอมพิวเตอร์ต่อเข้ากับเครื่องเพื่อใช้ในการบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลและมีการพัฒนาให้มีการส่งข้อมูลแบบไร้สาย

ในเวอร์ชันที่สอง  ได้มีการพัฒนาจมูกอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้สายผ่านระบบ Cloud เครื่องแรกในโลก สามารถทำการวิเคราะห์กลิ่นในอากาศในบริเวณที่ต้องการวัด โดยมีการวัดปริมาณก๊าซในอากาศ และส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายไร้สายแบบ ZigBee เพื่อนำไปเก็บไว้เป็นฐานข้อมูลสำหรับประมวลผลกลิ่นในอากาศ ณ ช่วงเวลานั้นๆ ระบบประกอบด้วย อุปกรณ์วัดทิศทางลม, ความเร็วลม, เซ็นเซอร์วัดความชื้น, วัดอุณหภูมิ และเซ็นเซอร์วัดก๊าซจำนวน 8 ชนิดด้วยเทคโนโลยีของเซ็นเซอร์อาร์เรย์ ได้แก่ O2, O3 , HCL, H2S, CO2, NO, NO2, และ NH3 ระบบสามารถรับส่งข้อมูลแบบออนไลน์จากเครื่องผ่านระบบ Cloud Computing เพื่อประมวลผลแบบเรียลไทม์และสามารถเรียกดูข้อมูลได้ทุกขณะผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้บนคอมพิวเตอร์พกพา และโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน ส่วนของซอฟต์แวร์สามารถประมวลผลปริมาณก๊าซแต่ละชนิดที่วัดได้และรายงานสภาพกลิ่นเป็นแบบระดับ เพื่อแจ้งเตือนได้เพิ่ม


คุณสมบัติเด่น
  • pure cloud platform เก็บข้อมูลเซ็นเซอร์ด้วย free cloud storage
  • webcam support ดูบรรยากาศและสภาพแวดล้อมแบบสดด้วยกล้องไอพี
  • website and Real-Time data แสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่านรูปแบบของเว็บเซอร์วิส
  • location and GPS ระบุตำแหน่งด้วยเทคโนโลยี location share by google maps
  • ใช้งานง่ายและสะดวกสุดๆ กับการระบุตำแหน่งติดตั้งของจมูกอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเทคโนโลยี google map

สอบถามข้อมูล   
ดร. อดิสร เตือนตรานนท์
ห้องปฏิบัติการวิจัยนาโนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องกลจุลภาค
โทรศัพท์ 02-564-6900 ต่อ 2111





30.julyGoldNano



ฉบับที่ 30 เดือนกรกฎาคม 2557



สีสันของทองคำจิ๋ว
(Color of gold in nanoscale)

Color of gold in nanoscale คือกระบวนการสังเคราะห์อนุภาคนาโนทอง ใช้เทคนิค real-time spectrophotometer เพื่อตรวจวัดและทำนายคุณสมบัติทางแสงของอนุภาคนาโนในระยะก่อผลึก เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนให้ได้อนุภาคตามต้องการ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและสารเคมี ซึ่งจากผลที่ได้ในเบื้องต้นนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถสังเคราะห์อนุภาคนาโนทองปริมาณมาก

อนุภาคนาโนทองมีบทบาทสำคัญในการพัฒนางานด้านเซ็นเซอร์ เช่นมีการนำมาใช้เพื่อเพิ่ม detection limit ของเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น เครื่องเอสพีอาร์ รวมไปถึงการพัฒนาเทคนิคตรวจวัดอื่นๆ เช่นระบบตรวจวัดสารพันธุกรรม ที่สามารถดูการเปลี่ยนแปลงสัญญาณแสงจากอนุภาคนาโนเหล่านี้ได้

ทีมนักวิจัยจึงได้พัฒนากระบวนการสังเคราะห์อนุภาคนาโนทองที่มีขนาดและรูปร่างต่างๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติทางแสงสอดคล้องกับความยาวคลื่นของระบบเซ็นเซอร์ โดยคุณสมบัติของแสงที่เปลี่ยนไปนี้เกิดจากการสั่นของอิเล็กตรอนตามสนามไฟฟ้าในคลื่นแสง หรือที่เรียกว่า คุณสมบัติคลื่นผิว (surface plasmon resonance) ที่สามารถสังเคราะห์อนุภาคนาโนทองทรงกลมและทรงกระบอกที่ความยาวคลื่นต่างๆ ได้ โดยอาศัยเทคนิค real-time spectrophotometer ตรวจวัดและทำนายคุณสมบัติทางแสงของอนุภาคนาโนในระยะก่อผลึก (nanocrystal formation) เพื่อสามารถปรับเปลี่ยนให้ได้อนุภาคตามต้องการ ทำให้ประหยัดทั้งเวลาและสารเคมี ซึ่งจากผลที่ได้ในเบื้องต้นนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถสังเคราะห์อนุภาคนาโนทองปริมาณมากต่อไป

การประยุกต์ใช้งาน

อนุภาคนาโนทอง สามารถประยุกต์ใช้งานในการทำเซ็นเซอร์ต่างๆ เช่น ตรวจหาโปรตีน ดีเอ็นเอ สารปนเปื้อนอื่นๆ โดยดูจากการเปลี่ยนสีเมื่อมีโมเลกุลที่สนใจมาติดกับทอง หรือใช้ขยายสัญญาณให้กับเทคนิคตรวจวัดอื่นๆ เช่น Surface Enhanced Raman Scattering (SERS), Surface Plasmon Resonance (SPR) และวิเคราะห์หาเซลล์มะเร็งด้วยเทคนิค dark-field imaging เป็นต้น

ผู้ใช้ประโยชน์ 
นักเทคนิคการแพทย์ นักวิจัย ธุรกิจเกี่ยวข้องกับชุดตรวจต่างๆ



สอบถามข้อมูล
ดร. อัชฌา กอบวิทยา
ห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีโฟโทนิกส์
หน่วยวิจัยอุปกรณ์และระบบอัจฉริยะ
โทรศัพท์: 0 2564 6900 ต่อ 2103