Vol27.SafeMate



 ฉบับที่ 27 เดือนเมษายน 2557

 

พฤติกรรมการขับขี่รถในปัจจุบันที่เป็นเกิดอันตรายและความประมาทส่วนใหญ่มาจากคนขับรถเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การขับรถเร็วเกินความเร็วที่กำหนด เช่น รถยนต์ส่วนบุคคล จำกัดให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถสาธารณะให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือการขับรถแบบหวาดเสียว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยในการขับขี่ สร้างวินัยที่ไม่ดีในการใช้รถใช้ถนน ซึ่งในบางครั้ง ผู้ขับขี่อาจไม่ทราบหรือไม่เคยสังเกตพฤติกรรมการขับขี่ของตนเอง SafeMate ผลงานวิจัยของหน่วยวิจัยสารสนเทศ การสื่อสารและการคำนวณ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ โดยดร.เฉลิมพล สายประเสริฐ ได้พัฒนาโมบายล์แอปพลิเคชั่นเพื่อประเมินพฤติกรรมในการการขับขี่รถ เพื่อให้ผู้ขับขี่รถหรือผู้ใช้รถบริการสาธารณะ ประเมินความปลอดภัยในการขับขี่ โดยใช้โทรศัพท์สมาร์ตโฟนเพียงเครื่องเดียว


 SafeMate ระบบประเมินพฤติกรรมในการการขับขี่ด้วยโทรศัพท์สมาร์ตโฟน เป็นเครื่องมือในการวัดระดับความปลอดภัยในการขับขี่ เน้นความสะดวก ใช้งานง่าย เข้าถึงง่าย และต้นทุนต่ำ โดยจะใช้เซ็นเซอร์ที่มีอยู่แล้วบนสมาร์ตโฟน มาใช้ประโยชน์ให้เต็มประสิทธิภาพ เซ็นเซอร์ที่ใช้เรียกว่า Accelerometer sensor หรือ เซ็นเซอร์วัดอัตราเร่งเพื่อมาตรวจวัดการเคลื่อนไหวของยานพาหนะที่ได้วางโทร ศัพท์สมาร์ตโฟนไว้ เหตุการณ์ในการขับขี่ที่สามารถตรวจจับได้คือ การเร่ง เบรก กะทันหัน เปลี่ยนเลน และเลี้ยวกะทันหัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เมื่อจบการใช้งานระบบจะคำนวณคะแนนความปลอดภัยในการขับขี่ และแจ้งผลให้ผู้ใช้งานทราบ รวมถึงแจ้งเตือนแบบ real-time เมื่อมีเหตุการณ์ในการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย และเสนอคำแนะนำเพื่อปรับปรุงการขับขี่ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น



หลักการทำงาน
     ใช้เซ็นเซอร์เป็นตัวเก็บข้อมูลสัญญาณจาก Smartphone GPS receiver accelerometer หรือ มาตรวัดอัตราเร่ง เพื่อประมวลผลเหตุการณ์ในการขับขี่แบบ real-time เช่น การเบรก/เร่ง กะทันหัน เปลี่ยนเลน กะทันหัน

คุณสมบัติเด่น
    1. วัดความเร็วและพฤติกรรมการขับรถแบบ real time

    2. เก็บข้อมูลความเร็ว เช่น การเบรก การเร่ง การเปลี่ยนเลน การเลี้ยว อย่างกะทันหัน
    3. มีการแจ้งแตือน (alert) เมื่อมีการขับขี่อันตราย ไม่ปลอดภัย โดยแสดงไอคอนเครื่องหมายตกใจบนหน้าจอ / แจ้งบนแผนที่แบบ real time / เครื่องสั่นเมื่อขับเร็วเกินความเร็วที่กำหนด




 4. มีระบบการคิดคะแนนประเมินการขับขี่หลังจบการเดินทาง และคำแนะนำเพื่อใช้ในการปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่และเก็บประวัติการใช้งานรายสัปดาห์
5.แบ่งปันข้อมูลในการขับขี่ให้กับเพื่อนๆ ในหน้า wall ของผู้ใช้งานบน Facebook
6. ประหยัดพลังงานใช้แบตเตอรี่ในการเปิดแอปพลิเคชัน 10-15% ต่อ 1 ชั่วโมง



    7. ความถูกต้องของการตรวจจับเหตุการณ์ในการขับขี่อยู่ที่ 60-100% (ขึ้นอยู่กับประเภทของเหตุการณ์)

เข้าสู่การใช้งาน
      คุณสามารถประเมินการขับขี่รถของตัวคุณเองหรือคนขับรถสาธารณะได้ด้วยการใช้โมบายล์แอปพลิเคชั่น Safemate  เพียง 3 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1. ดาวน์โหลด Safemate ได้ที่   google play  หรือ  app store
2. เปิดการเชื่อมต่อเครือข่าย และเปิดอุปกรณ์นำทาง (GPS) เพื่อเข้าสู่การใช้งาน
3. ให้วางโทรศัพท์สมาร์ตโฟนในแนวราบ โดยให้ด้านบนของโทรศัพท์อยู่ในตำแหน่งทิศทางการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าของรถ แล้วคลิกเข้าสู่ไอคอนเพื่อเข้าสู่ระบบ 

  
การประยุกต์ใช้งาน    
    สามารถนำไปกับระบบรถรับ-ส่งนักเรียน โรงเรียนสอนขับขี่รถยนต์ การประกันภัย การสอบใบขับขี่รถยนต์ หรือการนำไปใช้เพื่อร้องเรียนกรณีการขับขี่ที่เสี่ยงต่อภัยอันตราย

    ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ขับขี่รถอย่างปลอดภัย ด้วยการมีระบบเตือนภัยอยู่ข้างกาย เชิญทดลองทดสอบการใช้งานSAFEMATE  เพื่อสร้างสังคมให้น่าอยู่ และช่วยกันลดอุบัติเหตุที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้คนรอบข้าง

“ให้ SAFEMATE เป็นเพื่อนคุณ ในการขับขี่อย่างปลอดภัย เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก”



Vol28.FFC

ฉบับที่ 28 เดือนพฤษภาคม 2557

FFC Plus โปรแกรมบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัว รุ่นที่ 2

การพัฒนาระบบสารสนเทศโปรแกรมบันทึกข้อมูลสุขภาพครอบครัวแบบพกพา (Family Folder Collector Plus) หรือ FFC Plus เป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาทางด้านการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เรือธงของเนคเทค เป็นการพัฒนาเพื่อนำไปช่วยอำนวยความสะดวกในการเก็บแฟ้มอนามัยครอบครัวแบบกระดาษที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันทั่วประเทศ ที่มีปัญหาเรื่องการสืบค้น ข้อมูลไม่ทันสมัย ทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลไม่มีประสิทธิภาพ ทีมวิจัยวิจัยและพัฒนา จึงสร้างเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพในรูปแบบการบันทึกลงในคอมพิวเตอร์พกพา หรือ android tablet ที่สามารถพกพาไปในที่ต่างๆ ได้ โดยลดภาระการใช้กระดาษ ลดขั้นตอน และการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน ลดพื้นที่การจัดเก็บเอกสาร และยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขชุมชน ให้สามารถดูแลสุขภาพคนไทยได้ดียิ่งขึ้น

FFC Plus พัฒนาต่อยอดจาก FFC รุ่นที่ 1 โดยเพิ่มเมนูการใช้งานได้ครอบคลุมกับงานสาธารณสุขชุมชนเชิงรุก ได้แก่ FFC รุ่นที่ 1  ระบบออกแบบให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เชื่อมต่อกับระบบงานสถานีอนามัย JHCIS ของสาธารณสุข และสามารถนำไปใช้นอกพื้นที่ได้ แทนแฟ้มอนามัยครอบครัวโดยสามารถ สร้างผังเครือญาติ ระบุพิกัดหลังคาเรือนด้วยเทคโนโลยีจีพีเอสได้ ดูข้อมูลสภาวะสุขภาพส่วนบุคคลที่สำคัญเพื่อปรับปรุงข้อมูลด้านสุขภาพและบันทึกเพื่อเก็บลงฐานข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติ

FFC Plusในรุ่นที่ 2 เพิ่มฟังก์ชันการทำงานให้สามารถครอบคลุมการใช้งานกับบริการด้านสาธารณสุขชุมชนมากขึ้น มี บริการบันทึกงานคัดกรองโรคเพิ่มขึ้น 13 แบบคัดกรองโรค เช่น คัดกรองมะเร็งเต้านม/ปากมดลูก หญิงตั้งครรภ์ พัฒนาการเด็กหลังคลอด คุมกำเนิด คัดกรองโรคจิตเวช ตลอดจนงานสำรวจ สุขาภิบาลบ้าน และสถานที่สำคัญในชุมชน ซึ่งคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นมานี้สามารถใช้งานครอบคลุมการส่งเสริมป้องกันทาง ด้านสาธารณสุขเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

คุณลักษณะเด่นที่เพิ่มขึ้นใน FFC Plus รุ่นที่ 2
  1. เมนูระบาดวิทยา สำหรับดูพิกัดบ้านผู้ป่วยโรคระบาดบนแผนที่ พร้อมสามารถสร้างเขตควบคุมโรคได้
  2. เมนูปิงปองจราจรชีวิต 7 สี (กลุ่มปกติ กลุ่มเสี่ยง กลุ่มป่วย กลุ่มป่วยมีโรคแทรกซ้อน) สำหรับให้เจ้าหน้าที่ใช้จัดกลุ่ม เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันตามโมเดลของ นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเป้าหมายประชาชนใน พื้นที่กลุ่มอายุ 30 ขึ้นไป
  3. เมนูบริการคัดกรองโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดัน และการแสดงผลเชิงกราฟ ของค่าสัญญาณชีพที่สำคัญ เช่น ค่าระดับน้ำตาลในเลือด ความดัน และน้ำหนัก ของผู้ป่วย ย้อนหลัง 1 ปี

FFC Plus มีการนำไปใช้งานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เช่น อุบลราชธานี สงขลา ปัตตานี นนทบุรี เชียงใหม่ ขอนแก่น ฯ และมีการขยายรูปแบบการใช้งาน โดยเปิดอบรมเชิงปฏิบัติการ "การใช้โปรแกรมเก็บข้อมูลแบบพกพาบนฐานข้อมูล JHCIS" สำหรับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน ในการบันทึกข้อมูลบริการประชาชน สุขภาพนอกสถานที่ เพื่อส่งเสริม ป้องกัน เฝ้าระวังโรคให้ประชาชนมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากโรค ตลอดจนประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง และเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในอนาคต

สอบถามเพิ่มเติม :
วัชรากร หนูทอง
นักวิจัย
ห้องปฏิบัติการวิจัยโพรโตคอลและเครือข่ายไร้สาย
โทรศัพท์ 025646900 ต่อ 2513


ความเชี่ยวชาญของนักวิจัย
การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมแอนดรอยด์สำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา
เทคโนโลยีสมาร์ตการ์ด/อาร์เอฟไอดี/เอ็นเอฟซี
การออกแบบวงจรดิจิตอลขนาดใหญ่